สัมภาษณ์ดีเจภูมิ-เพชรจ้า เผยวินาทีชีวิตไฟไหม้ซานติก้า

รอดตายจากเหตุการณ์ไฟไหม้ “ซานติก้า” มาอย่างหวุดหวิดเลยทีเดียวสำหรับ “ดีเจภูมิ ภูมิใจ ตั้งสง่า” กับ “ดีเจเพชรจ้า วิเชียร กุศลมโนมัย” งานนี้นอกจากเจ้าตัวจะบอกว่าเหมือนตายแล้วเกิดใหม่แล้ว ก็ยังเปิดเผยถึงสาเหตุในการรอดชีวิตในครั้งนี้ว่า น่าจะเป็นปาฏิหาริย์จาก “หลวงพ่อวัดปากน้ำ” และ “กุมารทอง”

“ดีเจเพชรจ้า” เผย “กุมารทอง” มาดลให้ออกจากผับ“ผมกับภูมิไปเป็นพิธีกรที่ซานติก้า ตอนแรกเคาท์ดาวน์ทางร้านก็แจกไฟเย็นธรรมดาจุดพลุกัน ผ่านไปครึ่งชม.ไม่มีอะไร วงดนตรีเล่นกัน ผมกำลังรอโจอี้บอย ผมก็พักรอที่ห้องแต่งตัว ซักพักผมเริ่มรู้สึกว่าเอาเสื้อมาเยอะ เพราะเป็นพิธีกรก็ต้องเอามาใส่เปลี่ยนก็เลยคิดว่า เอาแจ็คเก็ตไปเก็บที่รถกันดีกว่า ก็บอกว่าภูมิว่าจะเอาเสื้อไปเก็บที่รถ ภูมิบอกว่าไม่ต้องไปหรอกทิ้งไว้นี่แหละ ผมบอกไม่เป็นไรไปเก็บที่รถดีกว่า เก็บเสร็จปุ๊บเดินกลับมาอยู่กับภูมิพักหนึ่ง มีคนตะโกนว่าไฟไหม้ เราก็คิดว่าไม่มีอะไรหรอกเดี๋ยวก็ดับ”


“ก็เห็นยามวิ่งไปเอากระป๋องดับเพลิง เราก็มองไปที่รถก็เลยคิดว่า มันจะไหม้ที่รถก็เลยบอกภูมิขึ้นรถดีกว่าเดี๋ยวเอารถไปจอดข้างหน้า แต่ขับออกมาข้างหน้าเห็นควันขึ้นเยอะมาก เด็กวิ่งมาเคาะออกไปแล้วออกไปเลยอย่ากลับไปอีก ผมก็เลยมาจอดข้างหน้าดูไม่ถึง 5 นาทีระเบิดตู้มๆๆๆ”

“วันนั้นเพื่อนผมในแก๊งก็มาๆ กันเค้าก็หนีออกมาได้ ซึ่งปกติแล้วผมจะอยู่ทีโต๊ะ แต่พอดีจะออนสเตจก็วิ่งไปหลังเวที พอเกิดเหตออกมาเจอเพื่อนข้างนอก เพื่อนก็เล่าให้ฟังว่า เห็นดนตรีเล่นอยู่มีคนยิงพลุเป็นสีๆ ขึ้นไปบนเพดาน พอมีแสงไฟระเบิดคนคิดเป็นซาวน์เอฟเฟค ก็ไม่รู้เหมือนว่าเอฟเฟคที่ร้านหรือคนยิงพุลไม่แน่ใจ”

“แต่ซักพักไฟลุกที่ข้างหลังนักร้องตรงกระจาดโปสเตอร์ใหญ่ๆ คนก็คิดว่าซาวน์เอฟเฟคคนก็คิดว่าเท่ห์เว้ยไฟลุกกระดาษ ซักพักเห็นมือคีย์บอร์ดรีบยกคีย์บอร์ดออกไป มือกลองเก็บซาวน์งานเข้าแล้วทีนี้ ผมก็เลยนึกถึงภาพช่วงที่ผมกำลังเดินไปที่รถก็เห็นนักดนตรีถือคีย์บอร์ดวิ่ง สวนออกมา ซึ่งมันแปลว่าไหม้มาจากข้างใน และหลังร้านก็มีครัวที่มีแก๊สปิกนิกสูงเท่าหัว”
“และพอผมขับรถมาจอดได้ที่หน้าร้านไม่ถึง 5 นาทีห้องที่เรานั่งก็โดนไฟไหม้ คือถ้าผมยังไม่ออกมาคงตายไปแล้ว เพราะมันไหม้อยู่บนหัวของเรา ซึ่งผมคิดว่าคนที่ตายส่วนมากคงจะอยู่ชั้นสองเพราะมันมีบันไดลงทางเดียวและคน ก็เยอะมาก ขนาดเพื่อนผมสองคนจับมือกันออกมาห่างกันแค่ไม่กี่ก้าว แต่เพื่อนอีกคนก้าวพ้นประตูกว่าเพื่อนอีกคนจะออกมาได้ต้องรอเกือบ 5 นาที เพราะมันโดนดึงโดนกระชากต่างคนต่างแย่งกันออกมา”

“เห็นเหตุการณ์แล้วกลัวครับ รู้เลยว่าชีวิตคนเรามันสั้น ผมไปนั่งกินข้าวกับเพื่อนสองคนสั่งมันทุกอย่างเลย คือผมรู้สึกว่าอยากกินอะไรก็กินไปเถอะ เดี๋ยวตายมาจะไม่ได้กิน มันน่ากลัวมากครับควันนี่ดับไปหมดดับมืดมองไม่เห็นอะไร ก็ถือว่าเป็นโชคดีที่รอดออกมา”

เผยเหตุรอดมาได้ อาจจะเป็นเพราะกุมารทองช่วยชีวิตไว้“คือปกติผมจะมีกุมารทองกับเบี้ยแก้ พกบางครั้งแต่โดยมากจะเรียกเขาไปด้วยทุกครั้ง ปกติแล้วถ้าจะเกิดเหตการณ์อะไรจะต้องมีอะไรมาให้เรารู้ จะประมาณผีหรอก อย่างเมื่อก่อนบ้านผมขับรถมอเตอร์ไซด์กลับบ้าน ซักพักมีคนมาเคาะหมวกกันน็อกโป๊กๆ ตอนแรกคิดว่าสายพันหมวกก็เลยจอดข้างทางก็เชคสายที่หมวกมันก็แน่นนี่หว่า เสื้อแจ็คเก็ตก็ไม่มีอะไรมาตีผมได้ ก็ขับไปอีกซักพักมีคนมาเคาะอีกดังมากปักๆๆ เราก็เลยรู้อยากให้จอดใช้ไหมก็จอดซ้าย ซักพักไม่ถึง 1 นามีมีรถมอเตอร์ไซด์กับสปอร์ตอัดกันผ่านผมไป กับเรื่องนี้ผมก็คิดว่าเขาคงมาดลใจผมให้เอาเสื้อไปเก็บ”

หลังจากพึ่งผ่านนาทีชีวิตรอดตายมาอย่างหวุดหวิด เจ้าตัวก็เดินสายไปทำบุญที่วัดหัวลำโพงทันที“เกิดเหตุการณ์นี้แล้วกลัวตายขึ้นมาเลย ก็เลยอยากไปทำบุญโลงศพให้เขา เพราะในนั้นเราก็รู้จักคนเยอะ มีแฟนคลับมาด้วยผมก็ไปคุยกับโต๊ะนั้นโต๊ะนี้ ก็พึ่งจะเจอหน้ากันชนแก้วบนเวที กอดกับคนนั้น คุยกับคนนี้ มีคนมาขอถ่ายรูปก็เลยอยากจะไปทำบุญให้ ยังไงก็ขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียด้วนะครับ”

อ้างอิงจาก ThaiBlogging.com